25
ต.ค.
2566

บริษัท เอเชีย เอวิเอชั่น จำกัด (มหาชน) เผยสถิติการดำเนินงานสำหรับไตรมาสที่ 3 ปี 2566

Share

  • ขนส่งผู้โดยสารรวม 4.6 ล้านคน (เส้นทางภายในประเทศ 2.7 ล้านคน ระหว่างประเทศ 1.8 ล้านคน)
  • เส้นทางภายในประเทศ อัตราการขนส่งผู้โดยสารแข็งเเกร่งที่ร้อยละ 93
  • เส้นทางระหว่างประเทศ ฟื้นตัวร้อยละ 83 เมื่อเทียบกับไตรมาสที่ 3 ปี 2562
  • สิ้นสุดไตรมาส 3 มีเครื่องบินที่ปฏิบัติการบินจำนวน 46 ลำ จากฝูงบินทั้งหมด 54 ลำ

สำหรับไตรมาสที่ 3 ปี 2566 อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวในประเทศไทยยังคงมีพัฒนาการในทางบวก โดยมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้ามายังประเทศไทยประมาณ 7 ล้านคน เทียบกับ 6.5 ล้านคน ต่อไตรมาสในครึ่งปีแรกที่ผ่านมา เช่นเดียวกันกับ บจ. ไทยแอร์เอเชีย ที่ฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง โดยขนส่งผู้โดยสารไปทั้งสิ้น 4.6 ล้านคน เพิ่มขึ้นร้อยละ 65 เมื่อเทียบกับไตรมาสที่ 3 ปี 2565 และฟื้นตัวร้อยละ 86 เมื่อเทียบกับไตรมาสที่ 3 ปี 2562 หนุนจากปริมาณที่นั่งที่ให้บริการจำนวน 5.1 ล้านที่นั่ง ซึ่งฟื้นตัวร้อยละ 78 เมื่อเทียบกับไตรมาสที่ 3 ปี 2562

สำหรับตลาดภายในประเทศ บจ. ไทยแอร์เอเชีย ขนส่งผู้โดยสารจำนวน 2.7 ล้านคน คิดเป็นการฟื้นตัวร้อยละ 89 เมื่อเทียบกับไตรมาสที่ 3 ปี 2562 และมีอัตราการขนส่งผู้โดยสารที่ร้อยละ 93 สะท้อนความต้องการเดินทางภายในประเทศที่ยังคงแข็งแกร่ง นอกจากนี้ บจ. ไทยแอร์เอเชีย ยังคงความเป็นผู้นำตลาดด้วยส่วนแบ่งตลาด ผู้โดยสารภายในประเทศสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ร้อยละ 38

สำหรับเที่ยวบินระหว่างประเทศ บจ. ไทยแอร์เอเชีย ให้บริการผู้โดยสาร 1.8 ล้านคน ในไตรมาสที่ 3 ปี 2566 ฟื้นตัวร้อยละ 83 เมื่อเทียบกับไตรมาสที่ 3 ปี 2562 หนุนโดยการให้บริการนักท่องเที่ยวที่เดินทางไปยังภูมิภาคเอเชียตะวันออกที่ฟื้นตัวตามภูมิภาคอื่น โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวจีน ซึ่ง บจ. ไทยแอร์เอเชีย ได้ขนส่งผู้โดยสารในเส้นทางระหว่างประเทศจีนทั้งสิ้น 349,000 คน ในไตรมาสที่ 3 ปี 2566 เพิ่มขึ้นร้อยละ 8 จากไตรมาสก่อนหน้า นอกจากนี้ ยังปรับความถี่เที่ยวบินไปยังประเทศจีนให้เหมาะสม โดยมีเที่ยวบินไปยังประเทศจีนจำนวน 71 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ ณ สิ้นไตรมาส ส่งผลให้มีอัตราขนส่งผู้โดยสารปรับตัวดีขึ้นมาอยู่ที่ร้อยละ 87 เพิ่มขึ้นจากร้อยละ 74 ในไตรมาสก่อนหน้า นอกจากนั้น บจ. ไทยแอร์เอเชีย ได้กลับมาทำการบินในเส้นทางเชียงใหม่สู่มาเก๊า ทำให้ในไตรมาสนี้ปริมาณที่นั่งในเส้นทางบินไปยังฮ่องกงและมาเก๊าเพิ่มขึ้นร้อยละ 22 จากไตรมาสก่อนหน้า สนับสนุนด้วยความพร้อมของสนามบินปลายทางและความต้องการเดินทางที่ดีขึ้น อีกทั้งได้เปิดเส้นทางบินใหม่จากดอนเมืองไปยังเมืองโคลัมโบ ประเทศศรีลังกา

หลังจากที่ประเทศจีนประกาศเปิดประเทศในเดือนมกราคม มีนักท่องเที่ยวชาวจีนเดินทางเข้ามายังประเทศไทยทั้งสิ้น 2.5 ล้านคน นอกจากนี้ มาตรการยกเว้นวีซ่าสำหรับนักท่องเที่ยวชาวจีน (มีผลตั้งแต่ 25 กันยายน 2566 ถึง 29 กุมภาพันธ์ 2567) และภาครัฐที่รับมือเหตุการณ์ความรุนแรงที่ห้างสรรพสินค้าใจกลางกรุงเทพฯ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ คาดว่าจะช่วยเร่งให้นักท่องเที่ยวชาวจีนกลับมาเที่ยวประเทศไทยเร็วขึ้น ในไตรมาสที่ 4 ปี 2566 บจ. ไทยแอร์เอเชีย มีแผนการเปิดเส้นทางบินไปยังอัห์มดาบาดและกูวาฮาติในประเทศอินเดีย และเพิ่มความถี่ของเที่ยวบินในเส้นทางเดิมโดยเฉพาะเส้นทางบินในประเทศ เพื่อตอบสนองต่อความต้องการเดินทางในช่วงไฮซีซั่น

ณ สิ้นไตรมาส บจ. ไทยแอร์เอเชีย มีเครื่องบินที่ปฏิบัติการบินจำนวน 46 ลำ จากฝูงบินทั้งหมด 54 ลำ โดยยังคงเร่งดำเนินการนำเครื่องบินที่ไม่ได้ใช้งานกลับคืนสู่ฝูงปฏิบัติการบินให้ได้มากที่สุดต่อเนื่องไปจนถึงสิ้นปี

(1) จำนวนที่นั่งผู้โดยสารที่ให้บริการ คำนวณจากจำนวนที่นั่งผู้โดยสารที่จ่ายค่าโดยสาร รวมถึงผู้โดยสารที่ไม่ได้มาขึ้นเครื่องบิน

(2) จำนวนที่นั่งผู้โดยสารที่มีอยู่

(3) จำนวนผู้โดยสารเทียบเป็นสัดส่วนกับปริมาณที่นั่ง

(4) ปริมาณการผลิตด้านผู้โดยสาร (ASK) วัดปริมาณที่นั่งผู้โดยสารของสายการบิน โดยคำนวณจากจำนวนที่นั่งบนทุกเที่ยวบิน คูณด้วยระยะทางบินเป็นกิโลเมตร

(5) ปริมาณการขนส่งผู้โดยสาร (RPK) วัดจำนวนผู้โดยสารของสายการบิน โดยคำนวณจากจำนวนบรรทุกผู้โดยสารที่จ่ายค่าโดยสารของทุกเที่ยวบิน คูณด้วยระยะทางบินเป็นกิโลเมตร

(6) จำนวนเที่ยวบินที่ให้บริการ

(7) จำนวนเครื่องบินทั้งหมดในฝูงบิน ณ สิ้นงวด