EN / TH
01 ตุลาคม 2568

7-Eleven จับมือ แอร์เอเชีย เปิดแคมเปญ “แสตมป์บินได้” ใช้ M-Stamp แลกรับสิทธิ์ตั๋วเครื่องบิน หนุนเที่ยวไทยปลายปี กระตุ้นเศรษฐกิจภูมิภาค

แสตมป์บินได้-(คนที่ 3-4 จากซ้าย) นายทัพพ์เทพ จีระอดิศวงศ์ รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส บมจ. ซีพี ออลล์ และนางสาวธันย์สิตา อัครฤทธิภิรมย์ ผู้อำนวยการฝ่ายการพาณิชย์ สายการบินไทยแอร์เอเชีย เปิดแคมเปญ “แสตมป์บินได้” ครั้งเเรกกับการสะสมและใช้ M-stamp แลกสิทธิ์ผ่าน 7-Eleven App รับตั๋วเครื่องบินเส้นทางกรุงเทพสู่ เชียงใหม่ ภูเก็ต ขอนเเก่น กับแอร์เอเชีย

กรุงเทพ 1 ตุลาคม 2568- 7-Eleven ร่วมกับสายการบินแอร์เอเชีย เปิดตัวแคมเปญสุดพิเศษ “แสตมป์บินได้” มอบสิทธิพิเศษแก่สมาชิก ALL member เพียงใช้ M-Stamp มูลค่า 777.- แลกรับตั๋วเครื่องบินแอร์เอเชีย เพียงเป็นสมาชิก ALL member ทั้งบ้าน บินฟรีทั้งครอบครัว กับ 3 เส้นทางภายในประเทศยอดนิยม ได้แก่ กรุงเทพฯ–เชียงใหม่, กรุงเทพฯ–ภูเก็ต และกรุงเทพฯ–ขอนแก่น เดินทางสะดวกเลือกได้ทั้งสนามบินดอนเมือง (DMK) และสุวรรณภูมิ (BKK) สิทธิ์มีจำนวนจำกัดเพียง 10,000 สิทธิ์ (1 สิทธิ์ / 1 เที่ยวบิน / 1 สมาชิก)

สมาชิก ALL member สามารถใช้ M-stamp แลกสิทธิ์ได้ผ่าน 7-Eleven App ตั้งแต่วันที่ 10 ตุลาคม – 15 ธันวาคม 2568 เพื่อนำ code ไปใช้ที่ Website www.airasia.com หรือ แอปพลิเคชั่น AirAsia MOVE

  • ระยะเวลาจองตั๋ว: 10 ตุลาคม – 31 ธันวาคม 2568
  • ระยะเวลาเดินทาง: 26 ตุลาคม 2568 – 31 มีนาคม 2569

โปรโมชันนี้ครอบคลุมเฉพาะค่าโดยสาร (ไม่รวมภาษีสนามบินและค่าธรรมเนียมอื่น ๆ) โดยที่นั่งอาจไม่มีให้บริการในบางช่วงวันหยุดยาว

นอกจากการเดินทางจะช่วยเติมเต็มความสุขและสร้างความทรงจำที่งดงามแล้ว โปรโมชันยังเป็นส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจท้องถิ่น สร้างรายได้ให้กับชุมชน ตลอดจนผู้ประกอบการรายย่อยที่อยู่บนเส้นทางการท่องเที่ยว การท่องเที่ยวในประเทศช่วงปลายปีจึงไม่เพียงสร้างรอยยิ้มให้กับนักเดินทาง แต่ยังช่วยแบ่งปันโอกาสทางเศรษฐกิจและความยั่งยืนให้กับชุมชนทั่วทุกภูมิภาคของไทย

การเปิดตัวแคมเปญครั้งนี้ จึงไม่เพียงมอบความคุ้มค่าและสิทธิพิเศษแก่สมาชิก ALL member เท่านั้น แต่ยังสอดคล้องกับบรรยากาศแห่ง ฤดูกาลท่องเที่ยวปลายปี ที่คนไทยนิยมใช้เวลาเดินทางพักผ่อนกับครอบครัวและเพื่อนฝูง พร้อมกันนี้ยังเป็นการร่วมสนับสนุนการท่องเที่ยวภายในประเทศ และมีส่วนช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจภูมิภาคให้กลับมาคึกคักอย่างยั่งยืนอีกด้วย